วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นิทัศน์แผ่นดินใหญ่เ ปิดม่านไม้ไผ่ สู่แดนมังกร



วันนี้มีของดี จากแผ่นดินใหญ่มาฝากครับ  ขอบอกว่า  สาวๆทั้งหมดนี้เขาเก่งจริง อะไรจริง วันนี้มาในบทเพลง Miracle -  Twelve Girls Band   แล้วอย่าลืมติดตามกันต่อไปนะครับ  โอกาสดี เพลงนี้เอกการสอนภาษาจีนของเราจะมาบรรเลงให้ท่านฟังอย่าแน่นอน  หวังว่าฟ้าคงเป็นใจนะครับ

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา


มื่วัที่วัพุที่ 27 2554 ที่ผ่านมา  
ข้าพเจ้าและเพื่อนๆศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนภาษาจีน   ได้ไปทัศนศึกษา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา  ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักที่นี่กันก่อนดีกว่า

บริเวณด้านหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
     หลายคนที่มาจากต่างจังหวัด คงจะไม่คุ้นหูกับคำว่า “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ”แค่นี่เป็นชื่อที่รู้จักดี ในหมู่ชาวชลบุรี  และจังหวัดใกล้เคียง หรือนั่นก็คือ“สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล”นั่นเอง ซึ่งพัฒนามาจากพิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานที่เลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2512 ในปีพ.ศ.2523 ได้ของบประมาณจากรัฐบาลญี่ปุ่นมูลค่า230ล้านบาทเพื่อจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลให้บริการด้านความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลแก่บุคคลทั่วไปในรูปแบบหลักๆ 2 แบบ คือ สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล
นอกจากนี้ยังมีการให้บริการด้านวิชาเพื่อเป็นการให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลแก่เยาวชนและบุคคลทั่วไปโดยการออกไปจัดนิทรรศการในที่ต่างๆ การจัดการฝึกอบรม และการจัดสัมมนาวิชาการ เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันตั่งแต่8.30-16.00
     สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลตั่งอยู่บริเวณรด้านหน้าทางเข้าของมหาวิทยาลัยบูรพาซึ่งก็อยู่ใกล้กับหอพักทำให้เดินทางสะดวกได้พบปะผู้คนเป็นจำนวนมากได้สื่อสารพูดคุยสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก และเป็นแหล่งสร้างและให้ความรู้กับผู้อื่นเป็นการเรียนรู้วิธีการดำเนินงานเกี่ยวกับวิถีเมืองที่อยู่ใกล้ตัว
สัตว์น้ำชนิดต่างๆ ภายในสถาบัน ฯ
สถานที่นี้ได้รวบรวมพันธุ์ปลาน้ำเค็มชนิดต่างๆ ไว้หลายชนิดในแต่ละวันมีผู้คนเดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมชมตลอดทั่งวันมีทั่งชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนมากจะมาในรูปแบบเป็นหมู่คณะ สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ ชมรม สมาคม ต่างๆที่มาที่นับ100ชีวิต  จะมีการแบ่งกลุ่มการเข้าเยี่ยมชมเพื่อความสะดวก
ในการเยี่ยมชมในส่วนที่ได้ขอวิทยากรเพื่อนำเยี่ยมชมนั้นก็จะมีวิทยากรทั่งที่มืออาชีพและมือสมัครเล่นอาสาพาเยี่ยมชม ฝีมือนั้นไม่แพ้กันเลย และวิทยากรที่ทำหน้าที่บรรยายให้กับกลุ่มของพวกเราคือ พี่อัจรา  พี่เป็นนักศึกษาฝึกงาน แต่ฝีปากกล้ายิ่งนัก  ทำให้น้องๆ สนุกสนานเพลินใจกันอย่างอิ่มอุรา นอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังมีความรู้มากมายที่ได้รับ  อย่างอย่างแรกเลยคือได้รู้จักปลาชนิดต่างๆ ทั้งปลาเศรษฐกิจ ปลาแปลก และมีพิษ และที่สำคัญที่สุดคือได้นำความรู้จากการเรียนวิชาเทคโนโลยีการศึกษาในเรื่องสื่อ "จากนามธรรมสู่รูปธรรม" ไม่ว่าจะเป็นตู้อันตรทัศน์  
ตู้อันตรทัศน์ สื่อที่เป็นของจริง 3 มิติ
ซึ่งมีอยู่อยู่รอบบริเวณ แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือ ตู้จำลองโลกใต้ทะเลทำให้เห็นปลาได้ชัดเจนมาก อีกทั้งสื่อกราฟิกต่างๆ อาทิกราฟิกที่เป็นแผนภูมิแบบสายธารต้นไม้อาณาจักร และมีการตกแต่งตามฝาผนัง ซึ่งออกแบบให้เสมือนอยู่ในโลกใต้ทะเล และสื่ออีกอย่างที่ได้เห็นชัดแจนคือกระบะทรายซึ่งเป็นการแสดงหอยชนิดต่างๆไว้ สาระในวันนั้นยังมีอีกมากมายแต่ที่สำคัญคือ “ประสบการณ์”  ประสบการณ์เป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ เป็นสิ่งที่ตราตรึงฝั่งแน่นอยู่ในความทรงจำของเรา  ไม่มีใครสามารถขโมยมันออกไปจากเราได้  เพียงแต่ถ้าเราไม่ลืมมันไปเสียเอง  “เพราะคำว่าไม่ลืม  มันไม่มีอยู่บนโลกกลมๆใบนี้ มีแต่ลืมช้าหรือลืมเร็ว”

ถ่ายภาพหมู่ที่ระลึกกันที่ด้านหน้าครับ

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มาท่อง ก. ไก่กัน

       เพื่อนๆๆ  ยังท่อง ก. ไก่ - ฮ. นกฮูกกันได้  ไหม...   วันนี้ไหนๆ ก็เรียนเรื่องการใช้สื่อมาแล้วว  มาครับๆๆๆมาดู  แบบแร๊พๆกันครับบ  เอาใจวัยรุ่นครับๆๆ

การแบ่งประเภทสื่อการสอน


การแบ่งประเภทสื่อการสอน
สื่อการสอน  หมายถึงตัวกลางที่ใช้ในการถ่ายทอดความรู้  ประสบการณ์  ความคิดและทักษะต่าง ๆ ไปสู่ผู้เรียน 
เป็นการใช้สื่อการสอนที่เป็นภาพนิ่ง  วิทยุ  หรือเทปบันทึกเสียง  เพื่อให้ประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียน  สื่อเหล่านี้เป็นสื่อที่ผู้เรียนสัมผัสได้เพียงด้านเดียว  เช่น  สื่อภาพนิ่งซึ่งอาจเป็นรูปภาพ  สไลด์  หรือภาพวาด  ภาพล้อ  หรือภาพเหมือนจริง  ซึ่งผู้เรียนเรียนรู้จากการดูภาพ  สื่อวิทยุเป็นสื่อที่ผู้เรียนเรียนรู้จากการฟัง  ข้อมูลหรือสาระความรู้ที่บันทึกอยู่ในสื่อประเภทนี้จะสามารถให้ประสบการณ์แก่ผู้เรียนได้  ถึงแม้ผู้เรียนจะอ่านหนังสือไม่ออก  ก็สามารถเข้าใจใจเนื้อหาบทเรียนได้  เนื่องจากเป็นการจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนโดยผ่านการฟังหรือดูภาพฃ


1 .มีการกล่าวถึงความหมายของ  สื่อการสอนประเภทวัสดุว่าเป็นสิ่งหรือวัสดุสิ้นเปลือง  ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร
        สิ่งของทุกอย่างมีคุณค่า มีความเหมาะสมสำหรับตัวมันเองและการนำไปใช้  และการศึกษาคือการลงทุน หากเราเสียไปซึ่งวัสดุและได้มาซึ่งความรู้อันเป็นทรัพย์ที่ยั่งยืนหาสิ่งใดเปรียบ สิ่งนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้และเสียไป
2. กรวยประสบการณ์ของ Edgar Dale  แบ่งสื่อการสอนโดยยึดหลักอะไร / สรุปสาระสำคัญ
       กรวยประสบการณ์ หรือ Cone of Experienceอดการ์ เดล (Edgar Dale)      ได้จัดแบ่งสื่อการสอน เพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างโสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ ในขณะเดียวกันก็แสดงขั้นตอน ของประสบการณ์การเรียนรู้        และการใช้สื่อแต่ละประเภทในกระบวนการเรียนรู้ด้วย โดยพัฒนาความคิดของบรุนเนอร์ (Bruner) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาก่อนนำสร้างเป็น กรวยประสบการณ์ (Cone of Experience)
กรวยประสบการณ์ของ Edgar Dale  เน้นสาระสำคัญจากการได้ลงมือ        ปฎิบัติจริงสัมผัสและได้เห็นจริง ทั้งการดำเนินชีวิตและการทำงาน ซึ่งทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นรูปธรรม จึงก่อให้เกิดความรู้ อย่างไรก็ตามผู้ทฤษีดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้กับบุคคลที่มีความพิการทางด้านร่างกายได้อย่างสมบูรณ์  เนื่องจากทุกขั้นตอนต้องอาศัยการสัมผัสและได้ยิน หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ไม่มากก็น้อย อาทิ หากบุคคลพิการทางสายตามองไม่เห็นก็จะไม่สามารถเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ หรือหากขาดการได้ยินก็ไม่สามารถรับฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้  เป็นต้น





วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งแรกถึงปัจจุบัน...

ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งแรกถึงปัจจุบัน...
วันแรกสำหรับคาบเรียนนี้ ผมอยากบอกว่า  กลับบ้านนอนๆๆๆๆ  เพราะช่วงนี้ก็กำลังทำศึกการรับน้องมหาโหดอย่างต่อเนื่อง  ยิ่งช่วงบ่ายแบบนี้แล้วด้วย ไม่ใช่ว่าหนังท้องตึงแล้วหนังตาหย่อน แต่มันอ่อนเพลียเหลือจะบรรยายจากการทำศึกรับน้อง พอ อ.เข้าสอนอารมณ์นั้นก็วับๆแว๊บๆ ง่วงบ้าง ตื่นบ้าง อ.ท่านสร้างความคุ้นเคยกับนิสิตทุกคน สร้างความเป็นกัน โดยให้แนะนำตนเอง และบอกว่ามาจากจังหวัดไหน วันนี้เป็นอีกห้องเรียนพิเศษเพราะมีพี่ชั้นปี 4 ไม่แน่ใจเดียวคราวหน้าจะมาบอก  คล้ายๆๆ ว่าชื่อพี่นุ่นนะ ผมว่าจำไม่ผิด  อยู่ดีๆ อ. ก็ให้พี่นุ่นไปยืนโชว์ตัวเป็นนางแบบหน้า ผมก็ว่าเอ๊!  ออกไปทำไม แล้วยิ่งเป็นพี่ๆด้วยไม่รู้จักใครเลย  แค่นี้ก็เขินๆๆแล้ว จากนั้น อ. ก็บรรยายแต่หัวจรดเท้าเลยว่าแต่งไม่ดี ไม่ถูก  โห....พี่เค้าก็ยิ้มรับแก้เขิน     แต่ผมว่าคงอายน่าดู  ไม่เป็นไรครับพี่คนเราผิดแล้วแก้ไขได้ อิอิอ พอเสร็จจากการแนะนำตัว อ.ก็พาเข้าบทเรียนด้วยเรื่อง ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา   แล้วก็สั่งงานทั้งงานกลุ่มงานเดี่ยว  ตอนนั้นคิดว่าจะขำๆๆ  แต่มาเป็นซุงเลยการบ้าน  แล้ว อ. ก็สอนท่อง   DDUME
       DDUME = D >> Design การออกแบบ
        D >> Development  การพัฒนา
        U >> Utilization  การใช้
        M >> Management  การจัดการ
  E >> Evaluation  การประเมิน
และเรื่องสุดท้าย พัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา 3 แนวคิด  จากนั้นก่อนเลิกชั้นเรียนก็เช็คชื่อด้วยการท่อง  DDUMEทำเอาเพื่อนๆๆตื่นเต้นกันทั้งห้อง ท่องผิดท่องถูกสนุกสนาน    และแล้วก็ไปทำศึกรับน้องกันต่อด้วยความ จำใจ555+
คาบเรียนครั้งที่ 2  วันที่ 15 มิถุนายน 2554
จ่อย นายแน่มาก  วีดีทัศน์นี้ผมดูประมาณรอบที่ 30 เห็นจะได้  แต่ดูกี่ทีๆก็ซึ้งเพราเป็นเรื่องจริงครับ ไม่เชื่อลองตามมาเลย  ตามมาที่เวปนี้เลย

  อันนี้เป็นประวัตินายจ่อยย่อๆนะ  ละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก เรื่อง จ่อย…นายแน่มาก เป็น ละครที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงแสนจริงของ ด.ช.พิเชษฐ์ ยวงสะอาด หรือ จ่อย เด็กดี V-Star_โรงเรียนปากคลองบางขนาก จังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้สร้างประวัติศาสตร์ชีวิตหน้าใหม่ จากเด็กหัวโจก วัยโจ๋ เกเร ชอบหนีเรียนเป็นประจำ จนเพื่อนในโรงเรียนไม่มีใครคบ แต่ได้รับกำลังใจ อีกทั้งแรงสนับสนุนจากคุณครูและเพื่อนๆ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากเด็กที่เกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียน ไม่มีใครคบ จ่อยได้พัฒนาตนเอง จนได้รับการยอมรับให้เป็นประธานนักเรียน โรงเรียนปากคลองบางขนาก และได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเรียนต้นแบบด้านการส่งเสริมศีลธรรมประจำปี พ.ศ.2551
       และแล้วเมื่อดูจบ อ. ก็ให้งานให้วิเคราะห์ปัญหาของจ่อยด้วยวิธีระบบ  ตามที่ อ. สอนก่อนที่จะให้ดูเรื่องนายจ่อย ขอเน้นว่ายากมากๆ เพราะยังไม่เข้าใจเรื่องวิธีระบบเลย  แรกๆๆคิดว่าคงไม่ยากอะไรทำไปทำมาโห..งงเป็นไก่ตาแตกเลย สุดท้ายก็เลยไปขอคำปรึกษาเพื่อน + แอบลอกเล็กน้อย อิอิ แล้ว อ.ก็ให้ส่งงานทาง อีเลินนิ่งครั้งแรกเลย โห..ลุ้นซะปวดเศียรเวียนเกล้ากันเลยเทียว  กลัวส่งกันไม่ทันลองผิดลแงถูกกันแต่มันก็มีข้อดีที่เราได้ช่วยเพื่อน  เราสงสัยตรงไหนก็ถามเพื่อนที่เข้าใจเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนใหม่ไปในตัวด้วยวันนี้คงต้องจบลงด้วยประการฉะนี้เพราะขี้เกียจแล้วเอย
คาบเรียนครั้งที่ 3 วันที่ 22 มิถุนายน  2554
วันนี้มาตะลุย ออนทัวร์กันที่ห้องสมุดกัน  ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่รู้สึกว่าตนเองได้รับความรู้  ขอเน้นเลยว่าความรู้ เพราะวิทยาการ พี่สุภาวดี จำได้แม่นเลยเพราะผมเป็นคนกล่าวขอบคุณพี่เขาเองกับมือ  เอ๊ย..ไม่ใช่ดิ  กับปากถึงจะถูก ผมว่าถ้ามีวิชาเกี่ยวกับบรรณารักษ์ต้องเอาพี่เขาไปเป็ย อ. พิเศษเลยล่ะ  เพราะพี่เขามีวิธีการสอนที่จูงใจ มีการเล่นเกมส์ มีของรางวัล เป็นตัวล่อ  (ชอบของฟรี 555+)  อันนั้นก็เป็นผลพลอยได้แต่ที่เป็นสาระสำคัญคือ รู้จักการใช้ห้องสมุดอันอภิมหามหึมาหนังสือแห่งนี้  เพราะช่วงแรกๆที่ผมและเพื่อนๆเข้าไปใช้  หากับถึงขั้นหอบเลยเทียว  แล้วยังมีเกี่ยวกับฐานข้อมูลวิยานิพนธ์ออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ  เป็นแนวทางที่ผมและเพื่อนจะเข้าไปศึกษาหาความรู้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว และจากนั้นก็ลากันไปด้วยการมอบของที่ระลึกและการกล่าวขอบคุณแบบหลุดๆๆของผมเองง  บายๆๆ   อออ..พี่เข้าชื่อนุ่น Nun Bio 4#
คาบเรียนครั้งที่ 4 วันที่ 29 มิถุนายน  2554
ในวันนี้อาจารย์สอนเกี่ยวกับเรื่องหลักและทฤษฎีการสื่อสาร วัสดุกราฟิกเพื่อการศึกษา ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษา  และการบันทึกและการสร้าง Web Blog  ซึ่งมันก็คือสิ่งที่ท่านกำลังอ่านนี่แหละ  อิอิ กว่าจะสร้างได้  มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ ลองผิดลองถูกถึง ตี 1 2กันซะตาดำเป็นปู่แพนด้าเลย  จากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้ดู VDO สองเรื่อง เรื่องอาม่า กับ เรื่องเหรียญของพ่อ เป็นภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ  ผมก็ดูแล้วอีกตามเคย  รู้ไปหมดทุกเรื่อง  แต่เอาตัวไม่รอด  อิอิ  พอดูเรื่องอาม่า  แล้วนึกถึง อาม่าข้างบ้าน  เขาก็เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาเหมือนกับอาม่าในละครแหละ อาม่ารักในหลวงมาก  อาม่าเป็นคนไม่รู้หนังสือไทยเลย แต่เข้าก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม ทุกครั้งที่ผมตามอาม่าไป อาม่าจะตั้งใจปฏิบัติธรรมและตอนท้ายก็จะถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในนหลวงและพระบรมวงศ์   อาม่าบอกว่าตัวเขาเองเกิดที่เมืองไทยเตี่ยกับแม่ของอาม่ามาจากเมืองจีนด้วยสำเภา มาอยู่เมืองไทยต้องอาศัยชายเขาบ้านเข้าอยู่มากับเสื่อฝืนหมอนใบ  แต่ก็เพราะพระเมตตาของในหลวงนี่แหละที่ไม่เคยรังเกียจชาวจีนอีกทั้งยังดูแลเฉกเช่นเดียวกับคนไทย  ผมฟังแล้วก็ซึ้งและตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไม อาม่าไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่เจ้าของแผ่นดินไทย ยังรักแผ่นดินไทย ยังรักในหลวง แล้วคุณล่ะชาวสยามทั้งหลาย ผู้เป็นเจ้าของสยามประเทศ วินาทีนี้คุณทำอะไรเพื่อพระองค์ เพื่อประเทศชาติบ้างหรือยัง
ใครที่ยังไม่เคยดูลิงค์นี้เลยครับ

1.เรื่องอาม่า
2.เรื่องเหรียญของพ่อ

คาบเรียนที่ 6 วันที่ 7 กรกฏ 2554
วันนี้ก็สนุกดีครับ  แต่การบ้านของ อ. เป็นกองเท่าภูเขาเลย  ทั้งบล็อกทั้งตอบคำถาม  โห..ปวดหัวเลยยยย   แต่ไม่เป็นไรครับ  สู้จนตายกันไปข้างหนึ่งเลยยย   ปากกาหัวตัดอะยากโครตๆๆๆ  ขนาดเคยเรียนมาบ้างแล้วยังยากขนาดนี้เลยไม่แปลกที่เพื่อนๆๆๆทำไม่ได้  ก็ไงวันนี้ก็สู้ๆๆๆนะครับ   แร่งทำบล็อกเด้ออออ   เดี๋นวพวกหางหมูแล้วจะทำไม่ไหวๆๆๆๆ

ครั้งนี้จะเป็นราบเรียนที่เท่าไรดี ละครับ
31/7/54
ห่างหายไปเสียนาน  ทั้งติดสอบ กิจกรรมต่างๆๆมากมายเลยไม่ค่อยได้มาอัพเดท  แต่เมื่อ 28/7/54 ที่ผ่านมาก็ไปทัศนศึกษาที่สถาบันวิยาศาสตร์ทางทะเล มาขอบอกว่าสนุกมากๆเลยครับ ทั้งที่ความจริงผมก็เข้ามาเป็น 10 รอบแล้ว  แต่เข้ามาคราวนี้ก็ตื่นเต้นครับ  เพราะเคยมาแต่ตอนยังเป็นเด็กน้อย  ตอนนี้ก็ปรับปรุงเปลี่ยน เสียจำไม่ได้เลย  เพื่อนๆ  อย่าลืมไปเยี่ยมชมบล็อกที่ไปทัศนศึกษามานะครับ  เด็ดจริง อะไรจริง ขอบอกๆ ออ...คะแนนสอบก็ใกล้ออกแล้ว   อายจังเลย  จะได้กี่คะแนนกันละนี่
 

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

"Educational Technology My Dream"

สุโขปัญญา ปฏิลาโภ ความได้ปัญญาก่อให้เกิดความสุข  ว่าแล้วก็ก็พนมมือ สาธุๆๆ เดี๋ยวหลววงพี่จะเทศน์ให้ฟังนะโยม  เอ๊ยๆๆ.....ไม่ใช่ เข้าเรื่องๆๆๆ นับแต่เข้าสู้รั้วเทาทองแห่งนี้ชีวิตของตัวผมเองก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง 
ประการแรก ขยันขึ้นเยอะ (จำใจ)
ประการถัดไป เหนื่อยกับการทำกิจกรรมมาก (จำทน)
ประการสุดท้าย การบ้านเยอะมากและปรับตัวไม่ทันกับสังคมใหม่ (จำสู้)
แต่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่น่าจดจำ เพราะได้รู้จักกับ 2พ. 
 พ.แรก
พ.พี่ เป็นอะไรที่รู้สึกดีเพราะตัวผมองเป็นพี่ชายคนโตพอได้มาเป็นน้องกับเขาบ้างถึงเข้าใจ     คำว่า น้อง”  
พ.ที่2  
พ.เพื่อน  เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่ได้ร็จักกับเพื่อนใหม่        นับตั้งแต่ลืมตามองดูโลกกว้างใบนี้  ครั้งแรกคือเมื่อสมัยยังเป็นวัยทีนตอน ม.ปลาย  ทะเลาะกันตีกัน (ผอ. เรียกไปอบรมเลยทีเดียว)        แต่สุดท้ายเมื่อความเข้าใจเข้ามาแทนที่ คำว่ามิตรภาพ   ก็มาแทนที่ความขัดแย้ง ประสบการณ์จากครั้งที่แล้วสอนให้ตัวผมรู้ว่าบางครั้งเราก็ต้องเป็นคนที่โอนอ่อนผ่อนตามบ้าง เพื่อความสงบสุขของชาวประชา เอ๋......ไม่ใช่ๆๆเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับเพื่อนๆๆๆ    ร่ายมาซะยาวนานๆม่เกี่ยวอะๆรกับหัวข้อเลยยยยย....  
ทีนี้เรามาเข้าเรื่องเข้าประเด็นกันจริงๆๆซะที ก่อนอื่นมารู้จักวิชานี้กันก่อยเลย แต๊แดแด๊ๆๆๆๆๆ รายวิชา เทคโนโลยีการศึกษา 400202 เป็นการประยุกต์เอาวิชาการต่างๆ มาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งเกิดจากการออกแบบการสอนตามหลักการออกแบบการเรียนการสอน  โดยคำนึงถึงคุณลักษณะของผู้เรียน ความเหมาะสมของสื่อที่สอดคล้องกับลักษณะเนื้อหาและความสนใจของผู้เรียน”
ผมเองก็ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะได้เป็นครูตามที่ได้เรียนมาไหม  เพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนก็คงกำลังคิดเช่นเดียวกับผม แต่ถ้าอนาคตผมเป็น ศาสตราจารย์ ดร.นวพล แก้วทรัพย์ทวีกุล อันนขอเวอร์นิดนึง        ได้เป็น “ครูก็ก็เจ๋งแล้วๆๆ  สำหรับผมคิดว่าวิชานี้ทำให้ผมเป็น "ครูฉบับเบ็ดเสร็จ" เลยทีเดียวเพราะได้ศึกษาหาความรู้ และลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งผมรู้สึกว่าความรู้ที่เกิดจากการลงมือทำ เป็นความรู้ที่ยั่งยืน ผมเองสามารถนำมวลประสบการณ์เหล่านี้ไปถ่ายทอดแก่นักเรียนที่ผมสอนได้ (อย่างดีเลยทีเดียว)        และผมคงต้องกล่าวขอบคุณ  อาจารย์ผู้สอนรายวิชานี้  ว่าที่เรือตรี ดร.อุทิศ บำรุงชีพ    เป็นอย่างสูงที่สุด เพราะท่านเป็นครูที่ดีมากๆ ท่านไม่ได้สอนแต่เนื้อหาวิชาความรู้ในตำรา แต่ท่านสอนการมีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข เพราะหลายคนมีความรู้ความสารถมาก  แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และอีกประการหนึ่งที่ท่านเน้นย้ำเสมอคือ คุณธรรมนำความรู้ ผมเชื่อเหลือเกินว่าหากครูทุกท่านสามารถนำแนวคิดนี้ปลูกฝังลงไปในจิตใจของเยาวชนผู้เป็นกำลังของชาติในอนาคตได้  ชาติไทยของเราคงจะมีแต่  ความสงบสุข  
สุดท้ายนี้
ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูงที่กรุณาสละเวลาอันมีค่ายิ่งของท่าน มาร่วมแบ่งบันประสบการณ์ซึ่งกันและกันเป็นอย่างสูง (จริงจัง) หวังว่าครูที่ดีพัธุ์ใหม่ หัวใจบูรพาอย่างพวกเราจะมีความสุขกับการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข 
ขอบคุณเด้อเจ้า..... 
(เฮฮาตอนท้าย  สงสัยกับตัวเองมากครับว่าตอนสรุปมันเกี่ยวกับเนื้อหาตรงไหนๆ  ผิดพลาดประการใด  ขอสุมาเด้อๆๆๆ)